กล้องชัดแต่บันทึกสะดุด? อาจเป็นเพราะฮาร์ดดิสก์! มาดูวิธีเลือกฮาร์ดดิสก์สำหรับกล้องวงจรปิดที่เหมาะสม

1. ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูล

• HDD (Hard Disk Drive): ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลจะอยู่ที่ประมาณ 80-160 MB/s ขึ้นอยู่กับรุ่นและความเร็วรอบของจานหมุน (RPM) ส่วนใหญ่ HDD ที่ใช้ในระบบกล้องวงจรปิดจะมีรอบการหมุนอยู่ที่ 5,400 – 7,200 RPM
• SSD (Solid State Drive): มีความเร็วในการอ่านและเขียนที่สูงกว่ามาก โดยสามารถทำความเร็วได้ตั้งแต่ 400 MB/s ขึ้นไป ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า

ข้อสรุป: หากต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ SSD จะตอบโจทย์มากกว่า แต่หากเน้นการบันทึกข้อมูลระยะยาว HDD จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

2. ความทนทานและอายุการใช้งาน

• HDD: มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวภายใน เช่น หัวอ่านและจานหมุน ทำให้เกิดการสึกหรอเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังไวต่อแรงกระแทก หากเกิดการสั่นสะเทือนอาจทำให้เสียหายได้
• SSD: ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว จึงมีความทนทานต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนสูงกว่า นอกจากนี้ SSD ยังสามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่หลากหลาย

ข้อสรุป: SSD มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าและทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้ดีกว่า HDD

3. รองรับการบันทึกต่อเนื่อง (24/7 Recording)

• HDD: ออกแบบมาเพื่อรองรับการบันทึกต่อเนื่องแบบ 24/7 โดยเฉพาะรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับระบบกล้องวงจรปิด (เช่น WD Purple, Seagate SkyHawk) ที่สามารถรองรับปริมาณข้อมูลสูง และมีเทคโนโลยีลดการสึกหรอของดิสก์
• SSD: ไม่เหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจาก SSD มีจำนวนรอบการเขียนที่จำกัด (Write Cycle) เมื่อเขียนข้อมูลซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้ SSD เสื่อมสภาพเร็วกว่า HDD

ข้อสรุป: HDD เหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอ 24 ชั่วโมงต่อวันตลอดทั้งปี ในขณะที่ SSD เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วในการดึงข้อมูลมากกว่าการบันทึกระยะยาว

4. ขนาดความจุและการใช้งาน

• HDD: มีขนาดความจุให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1TB – 16TB และรองรับการบันทึกวิดีโอได้ยาวนานกว่าด้วยราคาที่คุ้มค่า
• SSD: ส่วนใหญ่มีขนาดความจุ 250GB – 4TB ซึ่งยังไม่เหมาะสำหรับการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก

ข้อสรุป: HDD เหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอจากกล้องวงจรปิดระยะยาว เนื่องจากมีความจุที่มากกว่าและคุ้มค่ากว่า SSD